การเผาผลาญเป็นกระบวนการทางร่างกายที่นำแคลอรีในอาหารที่เรารับประทานมาใช้ หากร่างกายเผาผลาญได้น้อยหรือระบบเผาผลาญพังก็จะทำให้ลดน้ำหนักไม่ได้ผล ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง ได้แก่
- การอดอาหาร เมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารในปริมาณที่เพียงพอ ร่างกายจะเข้าสู่โหมดอดอยากและปรับตัวเผาผลาญน้อยลงเพื่อประหยัดพลังงาน
- การออกกำลังกายหนักเกินไป การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไปจะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลหลั่งเพิ่มขึ้น ฮอร์โมนนี้จะไปยับยั้งการสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มการสะสมไขมันในบริเวณหน้าท้อง
- นอนไม่เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้การหลั่งฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหารผิดปกติ ส่งผลให้อยากอาหารเพิ่มขึ้นและกินมากเกินไป
- ความเครียด ความเครียดจะทำให้การหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปยับยั้งการสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มการสะสมไขมัน
- อายุที่มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญจะลดลงตามธรรมชาติ เนื่องจากมวลกล้ามเนื้อลดลงและร่างกายมีการใช้พลังงานน้อยลง
หากต้องการให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จัดการความเครียด และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยรวม
การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การอดอาหารเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการเผาผลาญอาหารช้าลงได้ แต่ก็ไม่ถึงขนาดระบบเผาผลาญพัง การเผาผลาญอาหารที่ช้าลงนี้สามารถกลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและออกกำลังกายเป็นประจำ
การใช้คำว่า ‘ระบบเผาผลาญพัง’ เป็นการทำให้เข้าใจผิดและเป็นการสร้างความสับสนในหมู่ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ความจริงก็คือ การเผาผลาญอาหารเป็นกระบวนการทางเคมีที่ซับซ้อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงอายุ เพศ น้ำหนัก และปริมาณกิจกรรมทางกายภาพ การใช้วิธีการแบบองค์รวมซึ่งรวมถึงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการจัดการความเครียดจึงมีประสิทธิภาพมากกว่าในการจัดการน้ำหนัก
ฉันไม่เชื่อว่าจะมีระบบเผาผลาญพังหรอก ฉันคิดว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างที่ผู้คนใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในการควบคุมน้ำหนักของตนเอง
ฉันไม่อยากออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารหรอก ฉันเลยปล่อยให้ระบบเผาผลาญพังไปเลย
มันเป็นไปไม่ได้ที่ระบบเผาผลาญจะพังจริงๆ ร่างกายมนุษย์เป็นระบบที่ซับซ้อนและมีการควบคุมตนเองได้ดีมาก
ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว ไม่มีคำว่า ‘ระบบเผาผลาญพัง’ มีแค่การเผาผลาญอาหารที่ทำงานได้ไม่ดีนักเท่านั้น ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำหรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน การใช้คำว่า ‘ระบบเผาผลาญพัง’ จึงเป็นการใช้คำที่เกินจริงและไม่ถูกต้องทางวิทยาศาสตร์
อย่ามาหลอกลวงตัวเองเลย ระบบเผาผลาญพังเนี่ย มันเรื่องจริง ฉันเจอมาเยอะแล้ว คนที่กินอะไรเข้าไปก็อ้วนไปหมด ไม่ว่าจะกินอะไรก็อ้วนไปหมด นั่นก็เพราะระบบเผาผลาญของเขาพังไปแล้ว
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการออกกำลังกายก็ยืนยันว่า การเผาผลาญพัง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในแง่ของสรีรวิทยา เพราะร่างกายมนุษย์มีกระบวนการเผาผลาญอาหารที่ซับซ้อนและทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว ฉะนั้น การใช้ถ้อยคำว่า ‘ระบบเผาผลาญพัง’ จึงเป็นเพียงสำนวนที่ใช้เปรียบเปรยถึงการเผาผลาญอาหารที่ทำงานได้ไม่ดีนักเท่านั้น
ฉันก็เคยเชื่อว่าฉันมีระบบเผาผลาญพัง แต่จริงๆแล้ว มันแค่เป็นข้ออ้างที่เราใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารที่แท้จริง ฉันลดน้ำหนักได้สำเร็จโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ฉันรู้สึกมีพลังมากขึ้นและสุขภาพดีขึ้นกว่าเดิมมาก