“กระดูกหัก” โรคยอดฮิต ที่คนไทยต้องเฝ้าระวัง

ระวัง

โรคกระดูกและข้อเสื่อม เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยโรคนี้เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่เคลือบปลายกระดูก ทำให้กระดูกเสียดสีกันและเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดอาการปวด บวม และข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว

ปัจจัยเสี่ยงของโรคกระดูกและข้อเสื่อม ได้แก่ อายุที่มากขึ้น การมีน้ำหนักเกินหรืออ้วน กิจกรรมที่ต้องใช้ข้อมากเกินไป การบาดเจ็บที่ข้อ โรคบางชนิด เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และกรรมพันธุ์

อาการของโรคกระดูกและข้อเสื่อม ได้แก่

  • ปวดข้อ โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหวข้อ
  • ข้อบวม
  • ข้อฝืดตึง
  • การเคลื่อนไหวของข้อลดลง
  • มีเสียงดังก๊อบแก๊บที่ข้อ

การรักษาโรคกระดูกและข้อเสื่อม เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ปวดข้อ อาจใช้ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ หรือยาที่ช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อน ในบางรายอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อ

เพื่อป้องกันโรคกระดูกและข้อเสื่อม แนะนำให้

  • รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่ข้อ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและข้อ เช่น อาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี

11 thoughts on ““กระดูกหัก” โรคยอดฮิต ที่คนไทยต้องเฝ้าระวัง

  1. ไพโรจน์ ศรีสุข says:

    ==กระดูกหัก==เนี่ย เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเลยนะ ใครที่เคย==กระดูกหัก==คงจะรู้ดีว่ามันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน แถมยังต้องหยุดทำงาน หยุดเรียนอีก น่าสงสารจริงๆ

  2. อมร โปร่งใส says:

    ==กระดูกหัก==เป็นโรคที่ไม่ควรมองข้าม จริงๆแล้ว==กระดูกหัก==เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า==กระดูกหัก==นั้นสามารถป้องกันได้ด้วยการระมัดระวังในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่นกีฬา การขับขี่รถยนต์ หรือแม้กระทั่งการเดินบนพื้นที่เปียกลื่น นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอ ก็มีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการเกิด==กระดูกหัก==ได้อีกด้วย

  3. คมสัน รวิวัฒน์ says:

    ==กระดูกหัก== เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย สาเหตุหลักมาจากการเกิดอุบัติเหตุ การเล่นกีฬา หรือการหกล้ม ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย อาการของ==กระดูกหัก==นั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความรุนแรงของการหัก อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวด บวม ช้ำ เขียว และผิดรูปบริเวณที่หัก การรักษา==กระดูกหัก==นั้นทำได้โดยการใส่เฝือกหรือดาม เพื่อช่วยให้กระดูกกลับมาเข้าที่และติดกันได้อย่างถูกต้อง ระยะเวลาในการรักษานั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความรุนแรงของการหัก โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ การดูแลตนเองหลังจาก==กระดูกหัก==นั้น มีความสำคัญมาก เพื่อช่วยให้กระดูกหายเร็วขึ้นและป้องกันภาวะแทรกซ้อน ซึ่งรวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ การประคบเย็น การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี และการทำกายภาพบำบัดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความคล่องตัวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ หากมีอาการปวด บวม ช้ำ เขียว หรือผิดรูปบริเวณที่เคยหักหลังจากการรักษาแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

  4. ศักดิ์สิทธิ์ คุณากร says:

    ==กระดูกหัก==เหรอ งั้นก็คงต้องกินกระดูกเยอะๆสิเนอะ จะได้ไม่==กระดูกหัก==

  5. ทศพล สุภาพ says:

    ไม่จริงหรอกครับ==กระดูกหัก==ไม่ใช่โรค มันเป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุต่างหาก โรคคือสิ่งที่เกิดจากเชื้อโรคหรือความผิดปกติของร่างกาย

  6. วิศิษฐ์ ศิวะวิชัย says:

    ==กระดูกหัก==เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเลย ใครที่เคย==กระดูกหัก==คงจะรู้ดีว่ามันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดีๆนะครับ

  7. สมรัก คงสุข says:

    ==กระดูกหัก==เป็นอาการที่เกิดจากการบาดเจ็บ ไม่ใช่โรค โรคคือสิ่งที่เกิดจากเชื้อโรคหรือความผิดปกติของร่างกาย

  8. อุดมเดช บุญญาภักดี says:

    ==กระดูกหัก==เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากจริงๆ แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่สมัยนี้มีวิธีรักษาที่ดีขึ้นเยอะเลย ทำให้คนไข้หายเร็วขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติได้เร็วขึ้น

  9. เจษฎา ผลดี says:

    ==กระดูกหัก==ฟังดูน่ากลัวจังเลย แต่จริงๆแล้วมันก็แค่กระดูกหักธรรมดาแหละน่า ไม่เห็นต้องกลัวเลย

  10. ดนัย ชูแก้ว says:

    โอ้โห==กระดูกหัก==ฟังดูน่ากลัวจังเลย แต่จริงๆแล้วมันก็แค่กระดูกหักธรรมดาแหละน่า ไม่เห็นต้องกลัวเลย

  11. พีรวิชญ์ กิตติภัทร says:

    ==กระดูกหัก==เนี่ย เป็นเรื่องตลกจริงๆเลย ใครจะไปคิดว่าแค่ล้มลงเฉยๆก็==กระดูกหัก==ได้แล้ว ฮ่าๆๆๆ

Comments are closed.