กระทุ่มนา (Mitragyna speciosa) เป็นไม้ยืนต้นเขตร้อนชื้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เป็นไม้จำพวกเดียวกันกับต้นกาแฟ ต้นหมาก และต้นพลับพลา มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพบได้ในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และพม่า ในประเทศไทยพบได้มากในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ
กระทุ่มนาเป็นไม้ที่มีสรรพคุณทางยาและมีการใช้ในแพทย์แผนไทยมาอย่างยาวนาน โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาคือใบกระทุ่มนา ซึ่งมีรสขม การใช้ใบกระทุ่มนาเป็นยาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ได้แก่
- แบบแห้ง: นำใบกระทุ่มนาไปตากแห้งแล้วบดเป็นผง ใช้ชงดื่มหรือผสมในอาหาร เพื่อช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการปวดเมื่อย และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
- แบบสด: นำใบกระทุ่มนามาเคี้ยวสดๆ เพื่อช่วยเพิ่มพลังงาน บรรเทาอาการเหนื่อยล้า และลดอาการปวดเมื่อย
นอกจากนี้ ใบกระทุ่มน่ายังมีสรรพคุณทางยาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดอาการอักเสบ
- ช่วยรักษาโรคมาลาเรีย
- ช่วยรักษาโรคบิด
อย่างไรก็ตาม ในการใช้ใบกระทุ่มนาเป็นยาควรระมัดระวัง ไม่ควรใช้ในขนาดที่มากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ และเวียนศีรษะ นอกจากนี้ ห้ามใช้ใบกระทุ่มนาในสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี# กระทุ่มนา ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
บทคัดย่อ
กระทุ่มนาเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคุณสมบัติทางด้านสุขภาพ มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ และบำรุงร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม มีการใช้กระทุ่มนามานานหลายศตวรรษในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศไทย โดยใช้ทั้งใบ ราก และดอก ในการรักษาโรคและเสริมสร้างสุขภาพ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันได้ยืนยันถึงประโยชน์และสรรพคุณต่างๆ ของกระทุ่มนา โดยพบว่ากระทุ่มนามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
บทนำ
กระทุ่มนาเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในวงศ์กุหลาบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Murraya paniculata Linn. มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย โดยกระทุ่มนาสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและมีแสงแดดจัด โดยเฉพาะในบริเวณป่าดิบชื้นและป่าชายเลนกระทุ่มนาเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 2-4 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ดอกมีสีขาว รูปร่างคล้ายดอกส้ม มีกลิ่นหอม ผลมีลักษณะเป็นผลแบบลูกกลมเล็กๆ มีสีแดงจัดเมื่อสุก
ประโยชน์และสรรพคุณของกระทุ่มนา
กระทุ่มนาเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติทางด้านสุขภาพมากมาย โดยได้มีการใช้กระทุ่มนามาเป็นเวลานานหลายศตวรรษเพื่อรักษาโรคและบำรุงร่างกาย จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันพบว่าสารประกอบต่างๆ ที่อยู่ในกระทุ่มนามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย เช่น
1. แก้อาการท้องร่วง
ใบกระทุ่มนาสามารถนำมาต้มดื่มเพื่อรักษาอาการท้องร่วงได้ โดยในใบกระทุ่มนามีสารตานิน (Tannin) ที่มีฤทธิ์ฝาดสมานและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องร่วง
2. แก้บิด
รากกระทุ่มนาสามารถนำมาต้มดื่มเพื่อรักษาอาการบิดได้ โดยในรากกระทุ่มนามีสารเบอร์เบอรีน (Berberine) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยลดอาการท้องเสีย
3. แก้ปวดเมื่อย
ดอกกระทุ่มนาสามารถนำมาต้มดื่มเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยได้ โดยในดอกกระทุ่มนามีสารฟีนอล (Phenol) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยลดอาการปวด
4. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด
สารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและลดความดันโลหิตได้ โดยสารสกัดจากกระทุ่มนาจะไปยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL) และเพิ่มการสร้างคอเลสเตอรอลตัวดี (HDL) นอกจากนี้ สารสกัดจากกระทุ่มนายังสามารถช่วยลดการแข็งตัวของหลอดเลือดและช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
5. รักษาโรคเบาหวาน
สารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยสารสกัดจากกระทุ่มนาจะไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน และช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
ข้อมูลงานวิจัย
มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่ยืนยันถึงประโยชน์และสรรพคุณต่างๆ ของกระทุ่มนา โดยมีรายงานว่าสารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ จากการศึกษาในหนูทดลอง พบว่าสารสกัดจากกระทุ่มนาช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้จากการศึกษายังพบว่าสารสกัดจากกระทุ่มนายังช่วยปกป้องเซลล์เบต้าในตับอ่อน ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน และอินซูลินเป็นฮอร์โมนจำเป็นสำหรับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดจากกระทุ่มนามีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ โดยสารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถยับยั้งการผลิตสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบได้ งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถยับยั้งการหลั่งของสาร TNF-alpha และ IL-6 จากเซลล์ที่ถูกกระตุ้นให้อักเสบได้
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
สารสกัดจากกระทุ่มนามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดี โดยสารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถยับยั้งอนุมูลอิสระได้หลายชนิด งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถยับยั้งอนุมูลอิสระได้หลายชนิด เช่น DPPH (2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl), ABTS (2,2′-azino-bis(3-ethylbenzothiazoline-6-sulphonic acid)), และ hydroxyl radical
ฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด
สารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญทั้งในหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวานและหนูทดลองที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน
ฤทธิ์ลดระดับคอเลสเตอรอล
สารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากกระทุ่มนาสามารถลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (Low-density lipoprotein) หรือคอเลสเตอรอลตัวร้าย และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL (High-density lipoprotein) หรือคอเลสเตอรอลตัวดีได้
สรุป
กระทุ่มนาเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติทางด้านสุขภาพอย่างมากมาย อุดมไปด้วยสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยในกระทุ่มนาพบว่ามีสารเบอร์เบอรีน (Berberine) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาแก้อักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดและลดไขมันในหลอดเลือด ได้มีการใช้กระทุ่มนามาเป็นเวลานานหลายศตวรรษเพื่อรักษาโรคต่างๆ และบำรุงร่างกาย ซึ่งปัจจุบันงานวิจัยหลายชิ้นได้ยืนยันถึงประโยชน์และสรรพคุณต่างๆ ของกระทุ่มนา ทั้งในด้านการรักษาโรคและการบำรุงร่างกาย โดยพบว่ากระทุ่มนามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
คำติชม
กระทุ่มนา, สรรพคุณกระทุ่มนา, ประโยชน์กระทุ่มนา, ผลข้างเคียงกระทุ่มนา, งานวิจัยกระทุ่มนา
ใครที่กินกระทุ่มแล้วตัวลอยนี่เผลอแป๊บเดียวจะลอยไปถึงดวงจันทร์เลยนะ
อ้าว…กระทุ่มเนี่ยนะตัวอันตราย งั้นที่ผ่านมากินมาตั้งเยอะนี่ไม่ตายเลยเหรอ
ได้ความรู้ใหม่ๆ มากเลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
เดี๋ยวนี้เขาใช้กระทุ่มในการรักษาโรคได้ด้วยเหรอครับ
แล้วทำไมกระทุ่มถึงถูกจัดเป็นยาเสพติดประเภท 5 ล่ะครับ
จากข้อมูลงานวิจัยนี้พบว่ากระทุ่มมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย แต่ก็ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
ความรู้ใหม่ที่น่าสนใจมากครับ แล้วมีวิธีใช้อย่างไรให้ปลอดภัยบ้างครับ
ผมว่าข้อมูลที่เขียนมานี้มันไม่น่าเชื่อถือเลย น่าจะมั่วเอาเองมากกว่า
สรุปว่ามันดีต่อมนุษย์หรือไม่ดีกันแน่ครับ งงไปหมด
หืม…งานวิจัยบอกว่าดี แต่ตำรายาแผนโบราณบอกว่าไม่ดีเนี่ยนะ
น่าสนใจมากครับ อยากทราบว่างานวิจัยนี้ทำในไทยหรือต่างประเทศครับ
ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์มากครับ แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าผลข้างเคียงของการใช้กระทุ่มมีอะไรบ้าง