ฤกษ์บวชพระปี2567

ฤกษ์บวชพระปี 2567

การบวชพระเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ เป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนยาวนาน ดังนั้นจึงมีผู้ชายจำนวนมากที่ตั้งใจจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับตนเอง ครอบครัว และผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งเป็นการตอบแทนพระคุณพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด และเพื่อเป็นการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

ฤกษ์บวชพระปี 2567 มีดังนี้

• วันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2567
• วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2567
• วันอังคารที่ 10 มกราคม 2567
• วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2567
• วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2567
• วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2567
• วันอังคารที่ 24 มกราคม 2567
• วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2567

ผู้ที่ต้องการบวชพระในปี 2567 ควรเลือกฤกษ์บวชพระที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยคำนึงถึงความพร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ และการเงิน รวมทั้งควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการบวชพระให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้การบวชพระเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมบูรณ์แบบ

การเตรียมตัวก่อนบวชพระ

• ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะบวชพระ ได้แก่ เป็นชายแท้ อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง ไม่เป็นโรคจิตเวช หรือโรคติดยาเสพติด
• เตรียมเอกสารที่ใช้ในการบวชพระ ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรง ใบสำคัญการศึกษา หรือวุฒิการศึกษาสูงสุด หนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการหรือบริษัทที่ทำงานอยู่ (ถ้ามี) และใบมอบอำนาจ (ถ้ามี)
• เตรียมเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นสำหรับการบวชพระ ได้แก่ ผ้าไตรจีวร สบง จีวร อังสะ สังฆาฏิ พัด รองเท้าแตะ บาตร หม้อน้ำ ถ้วยชาม ผ้าเช็ดตัว และสบู่ยาสีฟัน
• เตรียมเงินสำหรับการบวชพระ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัด ควรสอบถามจากทางวัดโดยตรง

ขั้นตอนการบวชพระ

1. ติดต่อสอบถามวัดที่ต้องการบวชพระ เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการบวชพระ เตรียมเอกสารที่ใช้ในการบวชพระ และชำระค่าใช้จ่ายในการบวชพระ
2. เข้าพิธีอุปสมบท โดยมีพระอุปัชฌาย์เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีญาติมิตรเป็นประธานฝ่ายฆราวาส
3. พระอุปัชฌาย์จะสอบถามความประสงค์ของผู้บวชพระ และสอบถามถึงประวัติส่วนตัวและสุขภาพร่างกาย
4. ผู้บวชพระจะต้องเปลือยกายและนุ่งผ้าขาวม้า จากนั้นพระอุปัชฌาย์จะทำพิธีปลงผมและโกนคิ้ว
5. ผู้บวชพระจะต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด
6. พระอุปัชฌาย์จะทำพิธีประสิทธิ์ผ้าไตรจีวรให้กับผู้บวชพระ
7. ผู้บวชพระจะต้องกล่าวคำขอกำเนิดเป็นพระภิกษุกับพระอุปัชฌาย์
8. พระอุปัชฌาย์จะทำพิธีอุปสมบทให้กับผู้บวชพระ โดยมีพระคู่สวดและพระอนุสาวนาจารย์เป็นผู้ช่วย
9. ผู้บวชพระจะต้องนั่งประนมมือและตั้งใจรับคำสอนจากพระอุปัชฌาย์
10. พระอุปัชฌาย์จะทำพิธีกรานกฐิน โดยผู้บวชพระจะต้องกรานกราบพระอุปัชฌาย์ พระคู่สวด และพระอนุสาวนาจารย์
11. พระอุปัชฌาย์จะทำพิธีประสาทพรให้กับผู้บวชพระ
12. ผู้บวชพระจะต้องกล่าวคำขอบคุณพระอุปัชฌาย์ พระคู่สวด และพระอนุสาวนาจารย์
13. ผู้บวชพระจะต้องรับประทานอาหารมื้อแรกในฐานะพระภิกษุ