วิตามินดีสำคัญต่อภูมิคุ้มกัน และลดการเสี่ยงอาการรุนแรง

วิตามินดี คืออะไร

วิตามินดีเป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายในไขมันที่ประกอบด้วยวิตามิน D2 (เออร์โกแคลซิเฟอรอล) และวิตามิน D3 (โคลคาซิเฟอรอล) ซึ่งร่างกายต้องการวิตามินดีเพื่อการดูดซึมแคลเซียมที่มีส่วนสำคัญในการทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง นอกจากนี้วิตามินดี ยังช่วยควบคุมปริมาณแคลเซียมฟอสเฟตในกระแสเลือดโดยทำงานร่วมกับพาราไทรอยด์ฮอร์โมน (parathyroid hormone; PTH) จึงช่วยให้การเจริญเติบโตของกระดูกเป็นปกติ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบอีกด้วย

วิตามินดีมีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันอย่างไร

วิตามินดีมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยการช่วยให้เซลล์ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเซลล์ภูมิคุ้มกันเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา รวมถึงเซลล์มะเร็ง วิตามินดีจะไปเพิ่มการสร้างเพปไทด์ต้านจุลชีพซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้ จึงช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ วิตามินดี ยังช่วยลดการอักเสบในร่างกายซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง จึงช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงมากขึ้นได้

วิตามินดีช่วยลดการเสี่ยงอาการรุนแรงจากโรคต่างๆ ได้อย่างไร

มีการศึกษาจำนวนมากที่พบว่าวิตามินดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงของโรคได้ โดยวิตามินดีสามารถช่วยลดการอักเสบในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคเรื้อรังหลายๆ โรค รวมถึงมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันใหมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะโรคติดเชื้อและโรคระบบทางเดินหายใจ

วิธีรับวิตามินดี

ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้เองโดยอาศัยแสงแดด โดยแสงแดดจะไปกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างวิตามินดีชนิด D3 ซึ่งเป็นวิตามินดีที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด แต่หากไม่ได้รับแสงแดดเพียงพอ ก็สามารถรับวิตามินดีได้จากการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ไข่ และนมเสริมวิตามินดี หรือรับประทานวิตามินดีเสริมในรูปของอาหารเสริม