ทำไมกินยาแก้แพ้แล้วไม่หายสักที
เวชภัณฑ์หลักแห่งชาติ ขอไขข้อข้องใจให้ผู้บริโภคได้ทราบเพื่อใช้ยารักษาโรคอย่างเหมาะสม ยาแก้แพ้ นั้นเป็นยาที่ใช้รักษาอาการคัน น้ำมูกไหล น้ำตาไหล หรือลมพิษที่เกิดจากการแพ้ โดยยาแก้แพ้มีหลักการทำงานโดยเข้าไปขวางกั้นการทำงานของสารฮิซตามีน ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายปล่อยออกมาเมื่อเกิดการแพ้ ทำให้ลดอาการต่างๆ เหล่านี้ลง
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้อย่างต่อเนื่องและกินยาแก้แพ้แล้ว อาการไม่ดีขึ้นหรือดีขึ้นไม่มากพอ อาจเป็นเพราะ
- แพ้อาหาร ซึ่งผู้ที่แพ้อาหารชนิดหนึ่ง อาการแพ้จะเริ่มแสดงอาการในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารนั้นๆ จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นๆ และอ่านฉลากอาหารอย่างละเอียดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
- แพ้สิ่งแวดล้อม สำหรับผู้ที่แพ้สิ่งแวดล้อม เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์ อาการแพ้จะเริ่มแสดงอาการเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นนั้นๆ เช่น หมั่นทำความสะอาดบ้าน ปิดประตูหน้าต่าง และใช้ผ้าปิดจมูกเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งกระตุ้นต่างๆ
- แพ้ยาหรือวัคซีน สำหรับผู้ที่แพ้ยาหรือวัคซีน อาการแพ้จะเกิดขึ้นหลังจากได้รับยาหรือวัคซีนนั้นๆ ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการแพ้ยาหรือวัคซีน
- แพ้เครื่องสำอาง สำหรับผู้ที่แพ้เครื่องสำอาง อาการแพ้จะเกิดขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ อาจทำให้เกิดผื่นแดง คัน หรือบวม อาการแพ้เครื่องสำอางควรทดสอบโดยการทาผลิตภัณฑ์ในบริเวณที่ผิวบอบบางที่สุด แล้วสังเกตอาการก่อนที่จะใช้อีกครั้ง
หากใช้ยาแก้แพ้แล้วอาการแพ้ยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการแพ้ เพราะการกินยาแก้แพ้โดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง อาจเกิดอันตรายต่อตับได้
อ่านแล้วงงๆครับ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
ยาแก้แพ้มีหลายชนิดนะครับ ลองเปลี่ยนชนิดอื่นดูอาจจะหายก็ได้
อ่านแล้วขำจนท้องแข็งเลยครับ ชอบๆ
อ่านแล้วไม่รู้เรื่องเลย บอกแต่ว่ากินยาไม่หาย สรุปยังไง
หัวข้อบทความขำๆดีครับ แต่เนื้อหาไม่ค่อยมีอะไรเลย
อ่านแล้วไม่ค่อยได้อะไรเลยครับ
รู้จักยาแก้แพ้แต่ไม่บอกว่ากินแล้วหายหรือไม่หาย
ผมว่ากินยาแก้แพ้แล้วไม่หายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ แพ้บางอย่างกินยาไม่หายก็มี
อ่านแล้วฮาเลยครับ ยากินไม่หายก็ไม่ต้องกินแล้วใช่มั้ยครับ
เขียนได้ดีมากครับ แต่ถ้าเขียนให้เข้าใจง่ายกว่านี้จะดีมาก
อ่านแล้วเข้าใจยากจังเลยครับ
อ่านแล้วงงๆครับ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยครับ ขอบคุณครับ
สั้นๆได้ใจความดีครับ ชอบๆ